1. ต้องขับโดยผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือมีหน้าที่ในการขับเท่านั้น และต้องสวมหมวกนิรภัยด้วย นอกจากนี้ ในขณะที่กำลังขับรถโฟล์คลิฟท์ ห้ามผู้อื่นโดยสารไปบนรถด้วยเด็ดขาด
2.ก่อนใช้งาน ต้องมีการตรวจสภาพรถทุกครั้ง ทั้งสภาพภายนอก ระบบบังคับการ และระบบห้ามล้อ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
3. ห้ามบรรทุกของที่หนักเกินพิกัด หรือน้ำหนักที่กำหนดไว้ และห้ามบรรทุกของที่มีความสูงเกินไป เพราะอาจบังวิสัยทัศน์ของผู้ขับได้ และหากต้องยกของที่มีขนาดใหญ่กว่าช่วงงารถยก ต้องมัดของกับรถด้วยทุกครั้ง
4. หากต้องขับลงทางลาด ควรใช้เกียร์ต่ำ และห้ามยกของหรือบรรทุกของเกินอัตราพื้นที่ที่กระดานทางลาดจะรับน้ำหนักไหว
5. รถต้องมีหลังคาโครงเหล็กปกคลุมเหนือตัวคนขับ เพื่อป้องกันของตกใส่จากที่สูง
6. ผู้ขับต้องสำรวจเส้นทางให้แน่ใจว่าเส้นทางนั้นมีความกว้างเพียงพอที่จะผ่านไปได้ และไม่มีอะไรกีดขวางหรือไม่
7. ก่อนจะเคลื่อนรถ ต้องยกงาให้พ้นจากพื้นไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร และในขณะที่รถวิ่ง ระดับงาต้องสูงกว่าระดับพื้นไม่เกิน 30 เซนติเมตร พร้อมทั้งยกปลายงาเข้าหาคนขับ เพื่อป้องกันวัตถุที่ยกไหลตกลงมา และเมื่อเลิกใช้งาน ต้องปล่อยให้งาลงต่ำแตะพื้น ในลักษณะขนานกับพื้น แล้วจึงดับเครื่อง
8. ห้ามดึงล้อมือ ถ้าจอดในที่ลาดเอียงต้องใช้ไม้หมอนยันล้อไว้ เพื่อป้องกันรถไหล
9. เมื่อรถถอยหลัง ต้องให้สัญญาณเสียงและไฟกระพริบ
10. ควรปรับความกว้างของงาให้กว้างที่สุด และพอเหมะกับพื้นรองยก เพื่อไม่ให้วัสดุเอียงตก และเป็นการกระจายน้ำหนัก การสอดงา ควรให้งาทั้งสองห่างจากศูนย์กลางพื้นรองยกเท่ากัน
อย่าลืมว่า หากต้องใช้รถในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ หรือเวลากลางคืน ต้องจัดให้มีไฟส่องทางข้างหน้า และรอบบริเวณทำงาน และปฏิบัติตามกฎเพื่อความปลอดภัยทั้ง 10 ข้อที่กล่าวมาแล้ว เพียงเท่านี้ ก็สามารถใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ได้อย่างปลอดภัยหายห่วงแล้วค่ะ
รถโฟล์คลิฟท์ เป็นรถยกที่นิยมใช้กันในแวดวงอุตสาหกรรม ช่วยในการขนย้ายสิ่งของ และการขนส่ง เราอาจเคย
Forklift มีมากมายหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ทั้งแบบการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ และการขับเคลื่อนด้วย
แม้ว่ารถโฟล์คลิฟท์ จะเป็นตัวช่วยที่ดีมากในการทำงานด้านการยกสินค้าขึ้นลงในที่สูง และการเคลื่อนย้ายส
หมวดหมู่บทความ
ผู้สนับสนุน