หากรถโฟล์คลิฟท์ระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ มีเครื่องยนต์เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน รถโฟล์คลิฟท์ระบบไฟฟ้า ก็มีแบตเตอรี่เป็นเหมือนหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเช่นกัน ดังนั้น แบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องการการดูแลเป็นอย่างดี
การดูแล แบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ มีหลักดังต่อไปนี้
ตรวจสอบแบตเตอรี่ก่อนชาร์จ
ก่อนทำการชาร์จแบตเตอรี่ ต้องมีการตรวจสอบระดับน้ำกลั่น ปลั๊กไฟ และส่วนต่างๆ ก่อนเสมอ หากอยู่ในสภาพดี ไม่ผิดปกติใด ไม่ชำรุด ก็สามารถชาร์จได้ตามปกติ แต่หากมีความผิดปกติ ต้องซ่อมแซมแก้ไขก่อนทำการชาร์จ รวมถึงการทำความสะอาด หากขั้วแบตเตอรี่ และผิวของแบตเตอรี่ด้านบนสกปรก หรือมีขี้เกลือเกาะ ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำร้อน และเช็ดให้แห้ง
ชาร์จแบตเตอรี่เมื่อใกล้หมด
แบตเตอรี่ของรถ ก็เหมือนแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ จึงควรชาร์จเมื่อใกล้จะหมดแล้ว และชาร์จต่อเนื่องเป็นเวลา 8 ชั่วโมงติดต่อกัน จึงจะเป็นการถนอมแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน และอย่าลืมตรวจสอบว่าเสียบปลั๊กของแบตเตอรี่กับตู้ชาร์จแน่นแล้วหรือไม่
สถานที่ที่ทำการชาร์จ
การชาร์จแบตเตอรี่ ควรชาร์จในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี เพราะเมื่อเราทำการชาร์จแบตเตอรี่อยู่นั้น น้ำกลั่นจะระเหยออกมาด้วย
เรียกช่างมาตรวจเช็คเป็นประจำ
ควรให้ช่างผู้ชำนาญงานมาตรวจเช็คค่าถ่วงจำเพาะ และแรงดันของเซลล์แบตเตอรี่แต่ละเซลล์ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
แม้ว่าแบตเตอรี่จะมีการดูแลในหลายๆ ด้าน ก็ยังคงสะดวกสบาย การดูแลเครื่องยนต์ และยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงไปได้มาก เพียงแต่ต้องใส่ใจดูแลแบตเตอรี่ของรถโฟล์คลิฟท์ในระบบไฟฟ้าให้ดีเท่านั้น นอกจากจะเป็นการยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยให้ปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้นด้วย
การทำงานของ Forklift เป็นรถที่ถูกสร้าง คิดค้น และพัฒนามาใช้ในงานที่ต้องการยกของเพื่
รถโฟล์คลิฟท์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้านั้น ไม่ได้ใช้น้ำมันหรือแก๊สเป็นเชื้อเพลิงเหมือนกับรถโฟล์คลิ
รถโฟล์คลิฟท์ แม้จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการยกสินค้าขึ้นลงในที่สูง และการจัดเก็บสินค้า แต่ก็มีความอันตร
หมวดหมู่บทความ
ผู้สนับสนุน