ในปัจจุบัน การขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ไม่เป็นที่นิยม เพราะต้นทุนสูง และให้พลังงานต่ำ จึงควรพิจารณาความเหมาะสมในการเลือกรถโฟล์คลิฟท์ให้เหมาะกับงานของคุณใน 3 ระบบ ดังต่อไปนี้
1. ระบบไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้ามีข้อดีอยู่มาก ทั้งช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่มีเสียงรบกวน ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง เลี้ยวในวงแคบได้ดีกว่า ไม่ต้องซ่อมบำรุงมาก แต่ก็ไม่เหมาะกับการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากต้องมีการชาร์จ แบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ หลังเลิกใช้งาน และต้องชาร์จให้เต็มก่อนใช้ทุกครั้ง ยกเว้นจะมีแบตเตอรี่สำรอง นอกจากนี้สภาพอากาศยังมีผลต่อการใช้งานระบบไฟฟ้าอีกด้วย เพราะอากาศร้อน ชื้น อบอ้าว เย็น เป็นต้น อาจทำให้ระบบชำรุดเสียหายได้
สรุปว่า หากคุณทำงานในที่ร่ม ทำงานไม่ตลอด 24 ชั่วโมง และมีพนักงานดูแลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่หลังเลิกใช้งานทุกครั้ง คุณก็สามารถใช้ระบบไฟฟ้าได้
2. เครื่องยนต์ดีเซล
การใช้เครื่องยนต์ดีเซล มีความสะดวก และง่ายต่อการซ่อมบำรุง เพราะใช้อะไหล่เหมือนรถทั่วๆ ไป และเป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด อีกทั้งยังมีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ โดยเฉพาะอากาศร้อน จึงสามารถใช้งานกลางแจ้งได้ แม้จะมีข้อดีอยู่มาก แต่ก็มีข้อเสียคือใช้ต้นทุนเชื้อเพลิงสูง และมีเสียงดังรบกวนตลอดเวลาการใช้งาน อีกทั้งมีเขม่าควันมาก
ในประเทศไทย เครื่องยนต์ดีเซลนิยมใช้มากที่สุด เพราะเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา จะไม่เหมาะก็แค่ในที่ที่ต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น
3. เครื่องยนต์แก๊ส L.P.G.
แม้ว่าค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงจะถูกกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงที่แก๊สจะรั่วไหลซึ่งอาจเสียค่าใช้จ่ายไปกับมาตรการป้องกัน หรือดูแลเพิ่มเติมได้มาก เพราะเสี่ยงต่ออันตราย
หากว่าคุณต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ประเภทนี้ก็เหมาะกับคุณ แต่อาจมีค่าใช้จ่ายในส่วนการซ่อมบำรุง และดูแลความปลอดภัยมากกว่า
เมื่อได้ทราบข้อดีและข้อเสียและความจำกัดของแต่ละประเภทแล้ว ก็เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับชนิดงาน และสภาพอากาศด้วยนะคะ จะได้ใช้ได้อย่างคุ้มค่า
แม้ว่ารถโฟล์คลิฟท์ จะเป็นตัวช่วยที่ดีมากในการทำงานด้านการยกสินค้าขึ้นลงในที่สูง และการเคลื่อนย้ายส
หากคุณใช้งานรถโฟล์คลิฟท์อยู่ แล้วรู้สึกว่าเครื่องยนต์เกิดร้อนจัดขึ้นมา หรือร้อนมากกว่าที่ควรจะเป็น
ในการขับเคลื่อน รถโฟล์คลิฟท์ นั้น มีด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น การขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า กา
หมวดหมู่บทความ
ผู้สนับสนุน